อ.อ๊อด เอาจริง ฟ้องโหลกแดง พร้อมด้วยทนายเดชา ข้อหาหมิ่นประมาท ยืนยันไม่ฟ้อง หนุ่ม กรรชัย และ บุ๋ม ปนัดดา รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อ.อ๊อด อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ เดินเข้าแจ้งความกับเพจ โหลกแดง พร้อมด้วย ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง จากที่โพสต์พาดพิงว่าหลอกมาลงทุนกับสารสกัดกัญชาและกัญชง
อาจาร์ยอ๊อด ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ได้มาแจ้งดำเนินคดีกับเพจ red skull-โหลกแดง
ซึ่งเป็นเพจอวตารและเคยมีข้อพิพาทกับตนมาก่อนหน้านี้ โดยเพจดังกล่าวใช่ความเป็นอวตาร โพสต์ข้อความเท็จในทวิตเตอร์ บอกว่า อ.อ๊อด มีการหลอกลวงระดมทุน ให้นักลงทุนนำเงินมาลงทุนทำธุรกิจเกี่ยวกับสารสกัด CBD ในกัญชา ทำเกิดความเสื่อมเสียแกตนเอง และมีการท้าทายให้ดำเนินคดีให้ได้ ตนในฐานะประธานหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ อยากจะบอกว่าไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย
เรื่องความดีของเพจโหลกแดงก็ต้องแยกแยะ แต่ความเลวที่ทำกับตนก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ในส่วนทนายเดชาที่มีการโพสต์วันที่ 12 มิ.ย.2565 บอกว่ามีนักวิชาการ คนหนึ่งหลอกลวงนักลงทุนทำธุรกิจกัญชา แต่ไม่ได้มีเอ่ยชื่อ จึงขอแจ้งความในลักษณะให้มีการสอบสวนไว้ก่อนว่าทนายเดชา หมายถึงตนเองหรือไม่
อยากให้ทนายเดชาแสดงความเป็นลูกผู้ชายพูดมาเลยว่าใช่ตนหรือไม่ หากยืนยันว่านักวิชาการที่กล่าวอ้างหมายถึงตนเอง จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในส่วนของ หนุ่ม กรรชัย และบุ๋ม ปนัดดา ได้มีการโทรพูดคุยทำความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และได้เผยข้อความทางเฟซบุ๊กเพิ่มเติมว่าจะไม่มีการแจ้งความ บุ๋ม ปนัดดา และ หนุ่ม กรรชัย ที่มีการแชร์ข่าวดังกล่าวทางเพจโหนกระแส
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมดำเนินการสอบปากคำและแจ้งข้อหาเพจ Red Skull พร้อมตรวจสอบตัวบุคคลที่แท้จริง เพื่อแจ้งข้อหา พรบ.คอมพิวเตอร์ต่อไป
“สำหรับคนที่รอ จะประกาศคิวรับทุนคืน ภายใน 3-5 พฤษภาคมนี้ 15 พฤษภาคมยืนยันจ่าย เริ่มจ่ายคืนทุนตามกำหนดการเดิม”
ภายหลังเจ้าของโพสต์ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ได้มีการไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ในส่วนของคดีความคงต้องปล่อยไป เพราะเหตุยังไม่เกิด แต่ที่นำเรื่องราวมาเผยแพร่เพราะเพื่อเป็นอุทาหรณ์ ให้คนทั่วไปได้ระมักระวังเกี่ยวกับการ ดื่มเครื่องดื่มจากคนแลปกหน้า
นอกจากนี้เทรนเนอร์หนุ่มเจ้าของเรื่อง ยังมีการโพสต์อธิบายถึงสาเหตุที่หลายคนสงสัยว่าทำไมถึงนำเครื่องดื่มที่มีการวางยา นำกลับมาดื่มที่บ้านด้วย โดยเจ้าตัวได้ลงโพสต์อธิบายไว้ ดังนี้
พ่อแม่น้องเต้ เด็ก 16 ฝ่าไฟแดงชนคนตาย ยังไม่ยอมจ่าย 15 ล้านบาท
เผยหนังสือส่งให้นายกสภาทนายความ คดี เด็ก 16 ฝ่าไฟแดงชนคนตาย พบ พ่อแม่น้องเต้ ยังไม่ยอมจ่ายเงิน 15 ล้านบาท ด้านเด็กรับสารภาพทุกข้อหา
นายวีระศักดิ์ บุญเพลิง กรรมการบริหารสภาทนายความภาค3 ได้ทำบันทึกถึงนายวิเชียร ชุปไธสง นายกสภาทนายความ ในคดี เด็ก 16 ฝ่าไฟแดงชนคนตาย หรือ นายธนพล แก้วมูล หรือเต้ อายุ 24 ปี บัณฑิตเกียรตินิยมที่บริเวณที่สี่แยกไฟแดง ถนนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ประตู 1 ก่อนถึงประตูทางเข้ามหาวิทยาลัย ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 30 ก.ย. 65 ที่ผ่านมา
ในหนังสือฉบับดังกล่าวได้รายงานความคืบหน้ากรณีเด็ก 16 ขับบีเอ็มชนคนตาย ว่าได้มีการพบบิดามารดาผู้ตายแล้วเพื่อเจรจาค่าเสียหาย ฝ่ายผู้ก่อเหตุเสนอเงินให้ 250,000 บาท ในทางมนุษยธรรม ไม่รวมค่าเสียหาย ฝั่งญาติผู้ตายเรียก 15 ล้านบาท และเเสดงประสงค์ยังไม่รับเงิน 250,000 บาท เพื่อไว้รอรวมยอดทีเดียว
ขณะที่ฝ่ายผู้ปกครองเด็ก 16 ขับรถชนคนตายได้แจ้งว่ายอดเงิน 15 ล้านบทถือเป็นจำนวนที่สูงมากและขอปรึกษากันก่อน การเจรจาจึงยังตกลงกันไม่ได้ ในส่วนเงินชดเชยตาม พรบ.ผู้ประสบภัยจากรถ ทางสภาทนายความเสนอให้ทำบันทึกและ ทางบริษัทสินมั่นคงจ่ายมาแล้ว 5 แสนบาท
ส่วนเรื่องทางคดี ทางพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง แจ้งข้อหาสามข้อ คือขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,ขับรถฝ่าไฟแดงและขับรถโดยไม่มีใบอนุญาต เด็ก 16 ฝ่าไฟแดงชนคนตาย สารภาพทุกข้อหา
ขณะนี้พนักงานสอบสวนรอผลการสืบเสาะพินิจและรายงานจากกรมคุมประพฤติเพื่อเสนออัยการเพื่อฟ้องคดีต่อไปและการสอบสวนคดีอยู่ระหว่างพิจารณาว่าผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุจะเข้าข่ายความผิดตามพรบ.คุ้มครองเด็กหรือไม่
“สำหรับบางคนอาจสงสัยว่า จะเอาน้ำส้มกลับมาดื่มในบ้านทำไม คือผมอาจจะโลกสวย คิดว่าตัวเองคิดมากไปหรือป่าวเลยทดลองดื่มดู เพราะยังไงเราก็กลับถึงบ้าน อยู่ในโซนที่ปลอดภัยแล้วก็เลยลองสะหน่อยว่าเป็นอย่างที่ตัวเองคิดหรือแค่คิดมากไปเอง ปรากฎว่ายาแม่งโคตรแรงงงง เลยรีบหยิบมือถือติดต่อหาแฟน แฟนดันคิดว่าเราแกล้งเล่นอีก เกือบตายโง่ๆแล้วเรา”
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป